Pivot Table = อาหารกระป๋องใบน้อย
Power BI = อาหารกระป๋องใบใหญ่
.
ตั้งแต่ Excel มี Pivot Table ให้ใช้งาน ช่วยลัดขั้นตอนการสร้างรายงานได้เยอะอย่างไม่น่าเชื่อ แค่ไม่กี่คลิกก็หายอดที่ออกมาให้ในพริบตา ถ้ามองเป็นอาหาร ก็เปรียบเหมือนกับอาหารสำเร็จรูป แค่เปิดกระป๋องก็พร้อมรับประทานได้ทันที
.
Pivot Table พัฒนาขึ้นมาอีกขั้นด้วยความสามารถในการใช้ Slicer ช่วยกรองข้อมูลเพื่อสร้างกราฟทำเป็น Dashboard ได้ด้วย กลายเป็นหลักสูตรที่หลายคนถามหา อยากทำให้เป็นกันทั้งนั้น
.
ใช้ไปใช้มา พออยากจะดัดแปลงให้หายอดอะไรที่แปลกหน่อย ก็ต้องหาทางสร้าง Calculated Field ขึ้นมาซึ่งไม่ใช่ง่ายนักหากหน้าตาตารางเริ่มซับซ้อนมากขึ้น เริ่มมีการถกเถียงกันว่าตัวเลขที่ Pivot Table หามาให้นั้นถูกต้องตามต้องการหรือไม่
.
โปรแกรมเมอร์คนที่คิดสร้าง Pivot Table ขึ้นมาก็เพิ่งมาบอกทีหลังไม่นานนี่แหละว่า อย่าไปพึ่งการคำนวณที่ Pivot หามาให้นัก ถ้าอยากจะมั่นใจว่าได้คำตอบถูกต้องตามที่ต้องการจริงๆ ต้องใช้ Power Pivot กับ Power query และแล้วอาหารกระป๋องจานน้อยนี้ กว่าจะทำให้อร่อยก็เริ่มปรุงยากขึ้น ต้องหันมาเรียน M-Code กันอีก
.
พอทานอาหารกระป๋องใบน้อยแล้วติดใจ ครานี้ก็เกิด Power BI ขึ้นมาให้ใช้กับข้อมูลนอกเหนือจากที่เก็บไว้ใน Excel ได้โดยตรง ช่วยข้ามขั้นตอนการสร้าง Dashboards ซึ่งจากเดิมที่ต้องผ่องถ่ายลอกข้อมูลมาลง Excel ก่อน ก็ลัดไปแสดงออกมาเป็นกราฟสวยๆได้เลย
.
หลายคนที่ติดใจ Pivot Table พอเห็น Power BI ทำ Dashboards สวยๆขึ้นมาได้ มักคิดว่าทำได้ง่ายเหมือนกันกับการใช้ Excel ซึ่งกว่าอาหารจานใหญ่นี้จะปรุงให้อร่อยได้นั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
.
1. ต้องรู้จักวิธีการดึงข้อมูลจากระบบ Server หรือจากอินเตอร์เน็ต
2. ต้องเรียนรู้ภาษา DAX ซึ่งไม่เหมือนกับ Excel ที่ใครๆจะแกะออกมาได้ง่ายจากเซลล์โดยตรงว่าสร้างสูตรไว้ยังไง
3. ต้องมีพื้นประสบการณ์ทางธุรกิจ จะได้เลือกดึงข้อมูลได้ตรงจุด
4. ต้องมีพื้นฐานด้านการวิเคราะห์วิจัย สามารถใช้สถิติช่วยนำข้อมูลในอดีตมาช่วยในการตัดสินใจ
.
ที่ยากที่สุดก็ตรงที่จะหากุ้กพ่อครัวหัวป่ามาทำให้นี่แหละ และยังต้องเตรียมตัวแทนสำรองไว้ด้วยเผื่อเขาจะย้ายไปที่อื่น
.