- แก้สูตร Indirect ในเซลล์ F3:F6 เป็นสูตร =Case1!F3, =Case1!F4, =Case1!F5, และ =Case1!F6 ตามลำดับเพื่อ link ข้อมูลมาจากชีทชื่อ Case1 ในตำแหน่งเซลล์เดียวกัน
(Download ตัวอย่างได้จาก www.ExcelExpertTraining.com/extreme/files/database/singlemodulelink.zip) - Move ชีทชื่อ Case1, Case2, Case3 ไปเป็นแฟ้มใหม่ โดยใช้วิธีคลิกขวาที่ชื่อชีท Case1 แล้วเลือก Move or Copy จากนั้นคลิกเลือก (new book) แล้วกด OK จะพบว่าชีท Case1 ถูกย้ายทั้งชีทไปเป็นแฟ้มใหม่ที่มีชีทเพียงชีทเดียว แล้วให้ทำซ้ำกับชีท Case2 และ Case3 ให้เป็นแฟ้มใหม่แยกจากกันโดยใช้วิธีเดียวกันนี้อีก
- จัดเก็บแฟ้มที่เกิดขึ้นใหม่จากการย้ายชีท Case1, Case2, และ Case3 โดยตั้งชื่อแฟ้มเป็น SingleModuleLinkFilesCase1.xls, SingleModuleLinkFilesCase2.xls, และ SingleModuleLinkFilesCase3.xls ตามลำดับ แล้วเมื่อกลับไปคลิกดูสูตรในเซลล์ F3:F6 ในชีท SheetModule จะพบว่าสูตรเดิมที่เคยเป็นสูตร link ข้ามชีทถูกแก้ไขเองเป็นสูตร link ข้ามแฟ้ม =[SingleModuleLinkFilesCase1.xls]Case1!F3, =[SingleModuleLinkFilesCase1.xls]Case1!F4, =[SingleModuleLinkFilesCase1.xls]Case1!F5, และ =[SingleModuleLinkFilesCase1.xls]Case1!F6 ตามลำดับให้เอง
- เมื่อต้องการดึงข้อมูลจาก Case2 หรือ Case อื่น ให้เปิดแฟ้มปลายทางที่มีสูตร link ข้ามแฟ้มแสดงอยู่ขึ้นมาใช้งานเพียงแฟ้มเดียว (โดยไม่ต้องเปิดแฟ้มต้นทาง) จากนั้นสั่ง Data > Edit Links > Change Source ให้คลิกเลือกชื่อแฟ้มต้นทางเดิม แล้วกดปุ่ม Change Source จากนั้นไล่คลิกหาแฟ้มต้นทางใหม่ที่ต้องการ ซึ่งเมื่อเลือกแฟ้มต้นทางใหม่ได้เรียบร้อยและกดปุ่ม OK > Close กลับมาแฟ้มปลายทาง จะพบว่าสูตรเก่าถูกแก้ไขให้ดึงข้อมูลมาจากแฟ้มต้นทางใหม่ให้เองทันที
ข้อควรระวังในการใช้ข้อมูลที่ link ข้ามแฟ้ม
1. โครงสร้างภายในของแฟ้มต้นทางต้องเหมือนกันทุกแฟ้ม โดยตำแหน่งเซลล์ใดเป็นข้อมูลอะไรก็ต้องกำหนดให้ทุกแฟ้มใช้ตำแหน่งเซลล์เดียวกันทั้งหมด
2. หากแฟ้มต้นทางมีชีทเดียวแต่ใช้ชื่อชีทต่างกันเช่นในตัวอย่างนี้ใช้ชื่อชีทว่า Case1, Case2, และ Case3 เมื่อสั่ง Change Source จะพบว่า Excel สามารถปรับสูตร link ข้ามแฟ้มให้ถูกต้อง แต่ถ้าแฟ้มต้นทางมีหลายชีท ต้องตั้งชื่อชีทให้ตรงกันทุกแฟ้มด้วย มิฉะนั้น Excel จะมีขั้นตอนเปิดจอขึ้นมาถามว่าให้จับชื่อชีทใดแทนด้วยชื่อชีทใด
3. ถ้าต้องการแก้ไขโครงสร้างตารางโดยเฉพาะตำแหน่งเซลล์ในแฟ้มต้นทาง ก่อนจะแก้ไขใดๆให้เปิดทุกแฟ้มที่ link กัน ทั้งแฟ้มต้นทาง แฟ้มปลายทาง รวมทั้งแฟ้มต้นทางใหม่ที่ยังไม่ได้ link ขึ้นมาบนจอให้ครบทั้งหมดก่อน จากนั้นจึงค่อยทำการแก้ไข เพื่อทำให้ Excel ไล่แก้ตำแหน่งอ้างอิงในสูตรที่อ้างถึงแฟ้มที่เกี่ยวข้องให้เอง (ถ้าไม่ได้เปิดแฟ้ม Excel จะละเลยไม่สนใจตามไปแก้ไขให้แม้แต่น้อย)
4. ถ้าต้องการ Save เพื่อตั้งชื่อแฟ้มใหม่หรือย้าย Folder ที่เก็บแฟ้ม ให้สั่ง Save แฟ้มต้นทางก่อนแล้วจึง Save แฟ้มปลายทางทีหลัง (แต่ถ้าไม่ได้แก้ไขชื่อแฟ้มหรือย้าย Folder จะ Save แฟ้มใดก่อนก็ได้ แต่ต้อง Save ให้ครบทุกแฟ้ม)