แทนที่จะต้องเริ่มต้นเรียนรู้โครงสร้างสูตรของ VBA ขอแนะนำให้นำสูตร Excel ที่เราคุ้นเคยดีอยู่แล้วมาใช้แทนกันดีกว่า โดยพิมพ์คำว่า Application.WorksheetFunction ตามด้วยจุด นำหน้าสูตร Excel เช่น
[Source] = Application.WorksheetFunction.Round([Source], 2)
ปรับตัวเลขใน Source โดยปัดขึ้นเป็นเลขทศนิยม 2 หลัก
เ้ดิม 12.345 จะปัดขึ้นเป็น 12.35
แต่ถ้าใช้สูตร Round ใน VBA
[Source] = Round([Source], 2)
เดิม 12.345 จะปัดเป็น 12.34
จะเห็นว่า สูตร Round ของ VBA คำนวณให้คำตอบต่างจาก Round ของ Excel โดยสูตร Round ของ VBA จะมีหลักพิจารณาเพิ่มเติมว่า ถ้าเลขหลักที่ต้องการเป็นเลขคู่อยู่แล้วจะไม่ปัดขึ้น
หากต้องการค้นหาว่ามีสูตร Excel ใดที่สามารถนำมาใช้ใน VBA ได้บ้าง ให้ค้นหาจาก VBA Help โดยค้นหาจากคำว่า List of Worksheet Functions Available to Visual Basic แล้วขอให้สังเกตว่าไม่มีสูตร If (โดยให้หันมาใช้ IIF ของ VBA แทน) หรือค้นหาจากพื้นที่ที่ใช้เขียนรหัส ให้พิมพ์คำว่า Application.WorksheetFunction แล้วพอพิมพ์เครื่องหมายจุดต่อท้ายคำ จะพบว่า VBE เปิดจอเล็กๆไล่ลำดับชื่อสูตรที่มีอยู่ เพื่อให้เลือกได้โดยตรงในขณะที่พิมพ์ให้ทันที