คุณเคยใช้ตาราง Table ที่มีสีสลับกันแบบนี้หรือเปล่าครับ
ข้อเสีย
- เมื่อมีรายการจำนวนมาก สูตรที่อ้างอิงกับตารางนี้จะทำงานช้าลง
- ต้องใช้ข้อมูลทุกรายการตั้งแต่รายการแรกจนสุดท้ายไปใช้เสมอ ไม่สามารถเลือกนำเฉพาะช่วงรายการที่ต้องการ
- สูตรจะยาวขึ้นมากถ้าหัวตารางใช้ข้อความยาว
- สีที่พาดไว้อาจไม่แสดงสลับกันเหมือนเดิม
- ไม่ยืดหยุ่นในการเลือกใช้รูปแบบเพื่อแสดงเฉพาะส่วนที่ต้องการ
- เมื่อ Convert to normal range จะเปลี่ยนการอ้างอิงที่ใช้ชื่อในสูตรให้เป็นตำแหน่ง reference ตามปกติแลัวเมื่อทำให้เป็น Table ใหม่จะไม่ตามแก้สูตรให้เป็นชื่อตามที่เคยใช้อยู่
ข้อดี
- สีช่วยในการแสดงแต่ละรายการให้เห็นชัดเจนขึ้น
- สามารถหายอดรวมเพิ่มด้านล่างให้เองทันที ซึ่งเปลี่ยนไปใช้สูตรอื่นได้
- พื้นที่ขยายตามการเพิ่มรายการใหม่ต่อท้าย
- สูตรที่อ้างอิงกับพื้นที่ตารางใน Table จะขยายขนาดตาม
- ใช้ร่วมกับ Pivot Table, Slicer, Power Pivot, Power Query, Power BI, CoPilot
🤓 คุณชอบใช้สูตรไหนมากกว่ากัน =[@Sales]/[@Quantity] หรือ =$H3/$G3
จากภาพนี้ ตารางด้านซ้ายมือถูกเปลี่ยนเป็น Table ไปแล้ว จะเกิดสีพื้นสลับกันให้เห็น
พอสร้างสูตรหาค่าเฉลี่ยที่เซลล์ I3 ตามกรอบ จะเกิดสูตร =[@Sales]/[@Quantity] ให้อัตโนมัติ
ซึ่งสูตรแบบนี้เป็นการใช้ Table Name โดยนำชื่อหัวตารางด้านบนมาเป็นการอ้างอิงให้เลย และใส่ @ นำหน้าเพื่อชี้ว่าให้ใช้ยอดตรง row เดียวกันกับเซลล์สูตรมาใช้ในการคำนวณ
ถ้าคุณไม่เคยใช้สูตรแบบนี้มาก่อนและไม่รู้ว่าการใช้สูตรแบบนี้ต่อไปจะต้องระมัดระวังอะไรบ้าง แนะนำให้เลิกใช้ Table Name แล้วหันกลับไปใช้การอ้างอิงแบบที่คุ้นเคย =$H3/$G3 กันดีกว่าครับ โดยไปปรับระบบที่ Excel Options > Formulas > ตัดกาช่อง User table names in formulas
☝️ ระบบที่ปรับใหม่นี้จะไม่มีผลกับสูตรเดิม =[@Sales]/[@Quantity] ที่ใช้ Table Name อยู่แล้ว สูตรยังคงเหมือนเดิมครับ แต่จะมีผลกับสูตรที่สร้างขึ้นใหม่เท่านั้น
ถ้าอยากเปลี่ยนสูตรที่ใช้ Table Name ในทุกเซลล์ทั้งหมดให้กลับมาเป็นสูตรที่ใช้ตำแหน่งอ้างอิง reference แบบ A1 ทำได้โดยคลิกที่ Convert to Range บนเมนู Table Design เพื่อทำให้ตารางนี้เลิกเป็น Table