- แค่ cut-and-paste หรือการลอกข้อมูลมาใช้ผิดพลาด ทำให้บริษัท TranAlta สูญเงินไป 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อให้ราคาต่ำไปในการประมูลสัญญาลงทุนด้านพลังงานไฟฟ้า
- Allied Irish Bank/Allfirst พบการทุจริตเงิน 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพียงสร้างสูตรลิงก์เชื่อมโยงข้อมูลปลอมมาใช้
- บริษัทโทรคมนาคมแห่งหนึ่งลงทุนนับล้านในระบบการวางบิลแต่พบว่าเงื่อนไขในการคำนวณค่าโทรศัพท์ซับซ้อนมากและเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งจนฝ่าย IT ไม่สามารถสร้างโปรแกรมมาให้ใช้ทัน จึงหันไปใช้สเปรดชีทในการคำนวณแทน ต่อมาเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดจึงพบว่ามีข้อผิดพลาด ส่งผลทำให้บริษัทเสียชื่อเสียงที่ตีเป็นค่าเงินมิได้
- ราคาหุ้นของ C&C ตกลงไป 15% หลังจากพบว่าโอนข้อมูลผิดพลาดจากระบบบัญชีมาสู่สเปรดชีตเพื่อรายงานการค้าหุ้น
- ในปีค.ศ. 2003 Fannie Mae รายงานยอดทางบัญชีผิดถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เกิดจากข้อผิดพลาดในสเปรดชีต
- แค่ขาดเครื่องหมายลบทำให้ Magellan Fund รายงานผลประกอบการสูงไป 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและไม่สามารถจ่ายเงินปันผลตามที่สัญญาไว้
- บริษัทด้านสาธารณูปโภคแห่งหนึ่ง พบในวินาทีสุดท้ายว่าใส่วงเล็บในสูตรคำนวณผิด ทำให้ยอดกำไรตกจาก 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐเหลือเพียง 25 ล้านดอลลาร์
- แม้บริษัทมีโปรแกรมบัญชีใช้งานอยู่แล้วแต่ยังไม่สามารถออกรายงานตามความต้องการที่เปลี่ยนไปเสมอของฝ่ายการเงิน จึงหันไปใช้สเปรดชีตในการออกงบการเงินเพื่อรายงานต่อผู้บริหารระดับสูง และเนื่องจากระบบควบคุมภายในตรวจสอบไปไม่ถึงสเปรดชีตที่ใช้รายงาน เมื่อมีการตรวจสอบสเปรดชีตอย่างละเอียดจึงพบว่าคำนวณยอดค้างรับค้างจ่ายผิดพลาด
- ผู้บริหารบริษัทให้บริการทางสาธารณสุขยอมรับกับผู้สอบบัญชีว่า ได้แสดงยอดทรัพย์สินเป็นเท็จโดยทำให้รายรับมีมูลค่าสูงกว่าความเป็นจริงถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- เจ้าหน้าที่ตลาดหลักทรัพย์ทำการซื้อขายผิดพลาดและแสดงยอดขาดทุนสูงมาก เพราะแฟ้มสเปรดชีตที่ใช้อยู่นั้นเป็นแฟ้มที่เจ้าหน้าที่คนก่อนสร้างไว้อย่างซับซ้อนเกินกว่าจะเข้าใจได้และไม่ทราบมาก่อนว่ามีขั้นตอนพิเศษที่ผู้ใช้แฟ้มต้องคอยทำหน้าที่ควบคุมเงื่อนไขจึงจะคำนวณได้ถูกต้อง
- รายงานปริมาณยารักษาโรคที่แสดงในตารางว่ามีหน่วยเป็น milligrams (mg) แต่บางรายการกลับใช้หน่วยเป็น micrograms (mcg) ทำให้เกิดความผิดพลาดในการรักษา
- ในปีค.ศ. 2010 ผลการวิจัยของอาจารย์มหาวิทยาลัย Harvard คำนวณการขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลกติดลบ 0.1% เพราะลืมนำข้อมูลของ 5 ประเทศแรกมารวมคำนวณด้วย (ซึ่งรวมถึงประเทศออสเตรเลียและคานาดา) ซึ่งที่ถูกต้องนั้นเศรษฐกิจโตขึ้น 2.2%
- บริษัท JPMorgan ประเมินความเสี่ยงของ credit derivatives bets ต่ำกว่าความเป็นจริงถึงครึ่งหนึ่ง เพราะนำตัวแปรไปบวกแทนที่จะนำไปหาค่าเฉลี่ย ทำให้ค้าขายขาดทุนถึง 6.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เจ้าหน้าที่ถูกไล่ออก และผู้บริหารถูกเรียกตัวไปให้การต่อรัฐสภา
- ในปีค.ศ. 2008 บริษัท Barclays ซื้อบริษัท Lehman Brothers ในมูลค่าที่สูงกว่าความเป็นจริง เพราะผู้สร้างแฟ้มข้อมูลทรัพย์สินซ่อนเซลล์ที่ควรจะถูกลบเอาไว้เกือบ 200 เซลล์ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ไม่ต้องการมูลค่าถึง 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ผู้บริหารระดับสูงด้านการเงินของรัฐยูทาถูกไล่ออก เพราะคำนวณจำนวนเด็กนักเรียนที่จะเข้าเรียนในสถานศึกษาของรัฐต่ำไป เนื่องจากใส่ตำแหน่งอ้างอิงในสูตรผิดพลาด ทำให้ตั้งงบประมาณทางการศึกษาต่ำไปถึง 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
- ราคาหุ้นของบริษัท C&C ตกลงไป 15% เป็นผลจากรายงานผิดพลาดว่ารายได้เพิ่มขึ้น 3% ทั้งที่ถูกต้องคือรายได้ลดลง 5% เกิดจากการโอนข้อมูลจากโปรแกรมระบบบัญชีมาทำรายงานที่ต้องส่งให้ตลาดด้วยสเปรดชีตผิดพลาด
- มหาวิทยาลัย Toledo เสียเงินงบประมาณกว่า 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากพิมพ์สูตรผิด
- ตัวแทนการจัดซื้อของรัฐบาลฮังการีถูกปรับ 2 ล้านฟอรินท์และระงับการประมูล เนื่องจากส่งแฟ้มให้กลุ่มผู้ส่งสินค้าซึ่งเข้าใจวิธีใช้งานผิด แทนที่จะใช้ข้อมูลที่บันทึกไว้อยู่แล้วกลับใช้การกรอกข้อมูลด้วยมือ
ความเสียหายเหล่านี้เป็นเพียงความเสียหายส่วนที่เกิดข้อพิพาททำให้ต้องเปิดเผยต่อสาธารณชนเท่านั้น ยังมีความเสียหายอีกมากมายที่เก็บเป็นความลับหรืออายไม่อยากเปิดเผย
ดูความเสียหายอื่นๆที่เกิดขึ้นจากการใช้สเปรดชีต ได้จากเว็บ European Spreadsheet Risk Interest Group (EuSPrIG) http://www.eusprig.org/horror-stories.htm ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของ The European Spreadsheet Risks Interest Group เพื่อกระตุ้นให้สังคมตระหนักถึงความเสี่ยงจากการใช้สเปรดชีต โดยนำความเสียหายที่เกิดขึ้นกับแต่ละกิจการมาเปิดเผยให้ทราบกันไว้ในหัวข้อ Horror Stories