😎 เคล็ดลับในการหายอดรวมที่นึกไม่ถึงว่าจะทำได้ ยืดหยุ่นกว่าการใช้ Pivot Table
หลายปีที่ผมไม่ตื่นเต้นกับการใช้ Excel เพราะเจอแต่สิ่งที่รู้แล้ว เข้าใจแล้ว ทำเป็นแล้ว จนกระทั่งเจอว่าเมื่อนำสูตร CountIF มาใช้ร่วมกับสูตร SumProduct จะช่วยในการหายอดรวมที่สูตร SumIFS หรือแม้แต่สูตรทั่วไปไม่มีทางทำได้
สมมติว่าอยากจะหายอดรวมของการขายให้กับลูกค้าชื่อ A, B, กับ C
=SumIFS(SalesRange, CustomerRange, "A", CustomerRange, "B",CustomerRange, "C") จะหายอดรวมเท่ากับ 0
🤓 วิธีที่ทราบกันทั่วไป ต้องเปลี่ยนไปใช้สูตร SumProduct แทนแบบนี้จึงจะหายอดรวมของลูกค้า 3 คนนี้ได้
=SumProduct( ((CustomerRange="A") + (CustomerRange= "B") + (CustomerRange="C")) * SalesRange)
☝️ แต่ถ้าต้องการหายอดรวมของลูกค้าคนอื่นเข้าไปด้วยล่ะ จะทำอย่างไร ต้องแก้สูตร SumProduct โดยเพิ่มเงื่อนไข +(CustomerRange="X")+(CustomerRange="Y")+... เข้าไปอีก ทำให้การหายอดไม่ยืดหยุ่นเลย
😱 วิธีการใหม่ที่ผมพบ ซึ่งไม่เคยเจอว่ามีใครที่ไหนทำกันมาก่อน ให้ใช้สูตร CountIF((CustomerChoice,CustomerRange)) กับอะไรอีกนิดมาช่วยครับ จะทำให้สามารถสร้าง Dashboards ที่ช่วยให้หัวหน้าอยากจะหายอดลูกค้าคนไหนก็จะทำได้ง่ายมาก
เชิญใช้ลิงก์นี้เพื่อสมัครเรียนออนไลน์ 10+1 หลักสูตร ฟรี 1 ปี
https://xlsiam.com/purchase/?plan=1318
เคล็ดลับนี้อยู่ในหลักสูตร Excel Dynamic Reports ครับ พอทำเป็นจะเลิกใช้ Dashboards ที่ทำจาก Pivot Table ไปเลย
ปล
ปกติผู้เรียนไม่ตื่นเต้นหรอกใช่ไหมครับ เพราะไม่ทราบว่า วิธีการที่ได้เรียนไปนั้นพิเศษ แตกต่างจากที่ทราบกันทั่วไปอย่างไรบ้าง จนกว่าจะได้เรียนกับอาจารย์ท่านอื่นหรือเทียบผลงานกับคนอื่น
วิธีการใหม่นี้ผมนำมาเปิดเผยในหลักสูตร Dynamic Reports เมื่อไม่กี่ปีนี้เอง ตอนนี้ได้นำไปบอกต่อกันจนอาจกลายเป็นเนื้อหาที่ไม่ถือว่าแปลกพิเศษอีกต่อไปแล้วก็ได้
=SUMPRODUCT((COUNTIF(CityChoices,City)>=1)