มีคำถามใน facebook กลุ่มคนรัก Excel ว่า จะเรียน Excel กับใครดีที่ไม่เลี้ยงไข้ พอผมเห็นคำถามนี้แล้วนึกต่อไปว่า ที่แย่กว่าการเลี้ยงไข้ก็คือ นอกจากไข้ไม่หายแล้ว อาจได้รับการรักษาผิดโรคเสียด้วยซ้ำ
เกือบ 20 ปีที่ผมเป็นวิทยากรสอน Excel ให้กับสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) แม้จะตั้งใจสอนอย่างเต็มความสามารถแล้ว เชื่อว่าหลายหลักสูตรที่สอนแบบกว้างๆยังเข้าข่ายถูกตั้งข้อหาเลี้ยงไข้นี้ได้อย่างแน่นอน ส่วนที่พอจะยกเว้นข้อหานี้ได้บ้างก็ต้องเป็นการอบรมแบบช่วยแก้ปัญหา อบรมแบบตัวต่อตัว หรือจำกัดหัวข้ออบรมให้เฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่งเท่านั้น
ถ้าคุณเลือกเข้าอบรม Excel ตามแบบที่จัดกันทั่วไป ต่อให้รับผู้เข้าอบรมไม่กี่คน มีหัวข้ออบรมตรงกับความต้องการ ตลอดจนอาจารย์หรือวิทยากรเก่ง Excel มากก็ตาม ก็ยังยากที่พ้นข้อหาเลี้ยงไข้หรือจ่ายยาไม่ถูกกับโรคอยู่ดี ทำไมน่ะหรือ ... เพราะลืมดูที่ตัวผู้เข้าอบรม
- แน่ใจแค่ไหนที่ว่าตัวเองเป็นไข้น่ะเป็นโรคอย่างที่คิดไว้จริง
- ถ้าเป็นโรคนั้นจริง เรื่องที่ได้เรียนไปใช้ได้แค่ลดอาการที่ปลายเหตุ หรือสามารถใช้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้เลย
- อาจไม่ได้เป็นแค่โรคเดียว แต่ยังมีโรคแทรกซ้อนที่รอแสดงอาการอยู่อีก หลายเรื่องเป็นเรื่องลับ ไม่สามารถนำมาเล่าในที่สาธารณะ
- ได้รับยาวิเศษที่อาจารย์สร้างให้ แต่พอเกิดปัญหาคล้ายๆกันกลับทำเองไม่เป็นเพราะไม่ได้ขอให้อาจารย์อธิบายวิธีทำทีละขั้น
- ระยะเวลาอบรมสำหรับแต่ละหัวข้อมีน้อยเกินไป แม้ยังสงสัยอยากจะถามเพิ่มเติม ก็ไม่กล้ายกมือขึ้นถามเพราะเกรงใจผู้เข้าอบรมคนอื่น
- ข้อนี้สำคัญที่สุด คือ ผู้เข้าอบรมขาดพื้นฐานความรู้ Excel แถมเพิ่งได้รับงานที่ทำมาเสียอีก