จงสร้างสูตรในเซลล์ F5 ที่เห็นว่ามีสีเหลือง เพื่อนำเลข 5 ที่อยู่บนหัวตารางไปคูณกับเลข 12 ที่อยู่ด้านข้างซ้ายของตาราง ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ 5x12 = 60
ถ้าใครสร้างสูตรแบบนี้ สอบตก : =60, =5*12, =F2*B5
ถ้าใครสร้างสูตรแบบนี้ สอบผ่าน : =F$2*$B5 แต่ก่อนจะตัดสินใจรับเข้าทำงานต้องถามต่ออีกนิดว่า ใช้วิธีไหนสร้างสูตร =F$2*$B5 ลงไปในเซลล์สีเหลืองล่ะ
ถ้าสูตรที่เห็น =F$2*$B5 นั้นเกิดจากการพิมพ์ลงไปในเซลล์ทีละตัวตั้งแต่ใส่เครื่องหมายเท่ากับ = ไปจบที่เลข 5 ใครที่ทำแบบนี้จะสร้างงานช้ามาก กว่าจะส่งงานได้ หัวหน้าต้องรอแล้วรออีก
คนที่ควรจะรับเข้าทำงานต้องสามารถสร้างสูตรที่ใส่เครื่องหมาย $ โดยใช้วิธีต่อไปนี้ เพราะเขาจะใช้เวลานิดเดียวในการสร้างสูตร ไม่ต้องเสียเวลาไปพิมพ์เองทีละตัว
- พิมพ์เครื่องหมายเท่ากับ
- หยิบเมาส์ไปคลิกที่เซลล์เลข 5 บนหัวตารางสีฟ้า จะได้สูตร =F2
- กดปุ่ม F4 ไป 2 ทีเพื่อใส่เครื่องหมาย $ จะได้สูตร =F$2
- พิมพ์เครื่องหมายคูณ จะได้สูตร =F$2*
- หยิบเมาส์ไปคลิกที่เซลล์เลข 12 บนหัวตารางสีเขียวด้านซ้าย จะได้สูตร =F$2*B5
- กดปุ่ม F4 ไป 3 ทีเพื่อใส่เครื่องหมาย $ จะได้สูตร =F$2*$B5
- กดปุ่ม Enter
เอ!!! แต่ทำไมภาพนี้จึงแสดงสูตรที่เซลล์ C3 ให้เห็นว่ามีสูตร =C$2*$B3 อยู่แล้วล่ะ ตรงนี้แหละที่จะวัดกึ๋นว่า รู้จักสูตร Smart Formula ไหม
สูตร Smart Formula
ชื่อนี้เป็นชื่อที่ผมตั้งชื่อขึ้นมาเอง หมายถึงสูตรที่ใส่เครื่องหมาย $ กำกับตำแหน่งอ้างอิงไว้ถูกต้อง
ไม่ว่าตารางจะใหญ่ขนาดไหน มีเซลล์สูตรที่ต้องสร้างนับพันนับหมื่นเซลล์ก็ตาม เวลาสร้างสูตรจะสร้างลงไปแค่เซลล์แรกเซลล์เดียวแล้ว Copy ไปใช้ต่อที่เซลล์อื่น จะพบว่าสูตร Smart Formula จะทำให้ Excel ฉลาดปรับตำแหน่งอ้างอิงที่เกี่ยวข้องไปตามแนว Row/Column ให้เองทันที
แทนที่จะต้องเสียเวลาสร้างทีละเซลล์ นับพันนับหมื่นครั้ง ก็สร้างแค่เซลล์เดียวแล้ว Copy ไปใช้
ดังนั้นตามภาพนี้ ดูกันอีกที
คนที่รู้จักการใช้ Excel แบบฉลาด แค่ Copy เซลล์ C3 ไปวางลงที่เซลล์สีเหลือง F5 แค่นั้นก็เสร็จแล้ว (หรือจะ Copy เซลล์อื่นใดก็ได้ในพื้นที่ตารางสีเนื้อที่สร้างสูตร Smart Formula ไว้แล้ว)
ชมวิธีสร้างสูตร Smart Formula ได้จาก
https://www.excelexperttraining.com/book/index.php/a-to-z/f-g-h-i-j/f-f-f-f-f/smart-formula