ภาพนี้เป็นการหาว่านาง ก ที่สอบได้ 64 คะแนนได้เกรดอะไร คำตอบก็คือ เกรด C โดยใช้สูตร IF หรือ VLookup ก็ได้
=IF($K15>=$D$17, $F$17, IF($K15>=$D$16, $F$16, IF($K15>=$D$15, $F$15, $F$14)))
VS
=VLOOKUP( $K15, $D$14:$F$17, 3)
พอเจอสูตร IF ที่ซ้อนกันยาวหลายชั้น คนก็ต้องตอบว่าชอบสูตร VLookup เพราะสั้นกว่า
แต่ทราบไหมว่า Excel ชอบสูตร IF เพราะแม้ว่าสูตรจะยาวกว่า แต่จะใช้เวลาคำนวณนิดเดียว ส่วนสูตร VLookup จะคำนวณช้าลง ถ้าพื้นที่ตารางที่เก็บค่าใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ถ้าตารางเล็กๆแบบตัวอย่างนี้ก็เร็วไม่ต่างกันหรอก
ผมอวดปัญหานี้ให้ดูก่อนที่จะเริ่มต้นเรียนเพื่อทำให้คิด อย่าคิดแต่ชอบๆอย่างเดียว ต้องคิดให้รอบคอบกว่าเดิม ให้มองหาข้อเสียด้วย
จากนั้นผมจะถามว่า 2 สูตรนี้ ในหนังสือ Excel สูตรไหนจะอยู่บทต้นๆ
ในหนังสือส่วนใหญ่ จะพบสูตร IF อยู่หน้าแรกๆ ส่วนสูตร VLookup จะอยู่บทท้ายๆ
ดังนั้นถ้าอยากเก่ง Excel รู้จัก Excel เยอะๆว่ามีอะไรให้นำมาใช้งานบ้าง แนะนำให้หาซื้อตำรามาอ่านโดยไม่ต้องเปิดคอมพิวเตอร์ อ่านให้ผ่านตาวันละบทสองบท จะได้อ่านเจอบทเรื่องสูตร VLookup
แต่ถ้าอ่านไปทำคอมพิวเตอร์ไป อาจจะรู้จัก Excel ไม่ถึงไหน ไม่มีทางรู้จักสูตร VLookup เพราะไม่ช้าไม่นานก็มีหนังสือ Excel เล่มใหม่มาวางตลาดอีกแล้ว
หนังสือที่ผมชอบและแนะนำ เป็นหนังสือภาษาอังกฤษของ John Walkenbach ซึ่งเขียนอธิบายไว้ดีมาก ดีกว่าหนังสือของหลายคนที่เก่ง Excel มากแต่เขียนอธิบายไม่เป็น (ตอนนี้ John หันไปเล่นกีต้าร์แทนเขียนตำรา Excel แล้ว อาจหาหนังสือยากหน่อย)
ทำนองเดียวกัน ในการเรียนออนไลน์ ขอให้เปิดดูวิดีโอเพื่อฟังเพื่อคิดตามไปก่อน อย่าเพิ่งเปิดแฟ้มขึ้นมาทำตัวอย่างครับ จะได้เห็นภาพรวมกว้างๆก่อนว่ามีอะไรให้คุณนำมาใช้งานได้บ้าง
ถ้าเรื่องที่ตรงกับงานของคุณ ดันไปอยู่บทสุดท้าย แต่ยังเรียนไปไม่ถึง จะน่าเสียดายมาก
ปล
สูตร IF ที่เห็นในภาพที่แยกแต่ละส่วนให้ขึ้นบรรทัดใหม่ได้นั้น ใช้วิธีกดปุ่ม ALT+Enter ครับ ช่วยทำให้ทำความเข้าใจสูตรแต่ละส่วนได้ง่ายขึ้น ลูกศิษย์ที่มาเรียนกับผมตั้งชื่อให้ว่า
วิธีสร้างสูตรแบบผู้ดี๊ ผู้ดี