ขอย้อนนำตัวอย่างการคำนวณที่ตั้งชื่อหัวตารางด้านบนว่า Top มาคูณกับหัวตารางด้านซ้ายที่ตั้งชื่อว่า Left โดยใช้สูตร =Top*Left มาวิเคราะห์อย่างละเอียดว่า ด้วยเหตุใดสูตร =Top*Left จึงสามารถคำนวณหาคำตอบได้เฉพาะพื้นที่ตารางในส่วนที่ตัดกันของแนวคู่ขนานของ Top ตัดกับ Left เท่านั้น ส่วนพื้นที่ตารางนอกขอบเขตแนวที่ตัดกันจะให้คำตอบเป็น Error
เมื่อใช้คำสั่ง Formulas > Name Manager ย้อนไปตรวจสอบตำแหน่งอ้างอิงที่ Excel กำหนดให้กับตำแหน่งอ้างอิงที่มีชื่อว่า Top กับ Left จะพบว่า เป็นตำแหน่งอ้างอิงแบบ Absolute โดยมีเครื่องหมาย $ ควบคุมตำแหน่งทั้งแนว Row และ Column ตามรูปต่อไปนี้
- ตำแหน่งอ้างอิงชื่อ Top มีตำแหน่งอ้างอิง Refers to: =Sheet1!$C$2:$F$2
- ตำแหน่งอ้างอิงชื่อ Left มีตำแหน่งอ้างอิง Refers to: =Sheet1!$B$3:$B$5
ด้วยสาเหตุที่ตำแหน่งอ้างอิงถูกควบคุมด้วยเครื่องหมาย $ ทั้งแนว Row และ Column นี่เองที่ทำให้เกิดการจำกัดขอบเขตให้ใช้สูตรอ้างอิงถึงชื่อ Top กับ Left ได้เฉพาะในแนวคู่ขนาน
ดังนั้นหากคุณเข้าใจถึงเหตุและผลตามที่ไปที่มาดังกล่าวข้างต้น จะสามารถเลือกใช้เครื่องหมาย $ ในการกำหนดขอบเขตแบบไม่จำกัดได้ โดยปรับตำแหน่งเครื่องหมาย $ ตามหลักต่อไปนี้
- หากต้องการให้กำหนดตำแหน่งอ้างอิงให้หมายถึง ทุกเซลล์ในแนวนอน ให้ใช้ตำแหน่งอ้างอิงจากเซลล์เดียวตามแนวคู่ขนานกับเซลล์ที่จะใช้ชื่อนั้น และใส่เครื่องหมาย $ ควบคุมตำแหน่งเฉพาะ Row เช่น C$2
- หากต้องการให้กำหนดตำแหน่งอ้างอิงให้หมายถึง ทุกเซลล์ในแนวตั้ง ให้ใช้ตำแหน่งอ้างอิงจากเซลล์เดียวตามแนวคู่ขนานกับเซลล์ที่จะใช้ชื่อนั้น และใส่เครื่องหมาย $ ควบคุมตำแหน่งเฉพาะ Column เช่น $B3
- หากต้องการให้กำหนดตำแหน่งอ้างอิงให้หมายถึง ทุกแนว ให้ใช้ตำแหน่งอ้างอิงจากเซลล์เดียวตามแนวคู่ขนานกับเซลล์ที่จะใช้ชื่อนั้น และไม่ใส่เครื่องหมาย $
- หากต้องการให้ตำแหน่งอ้างอิงใช้ได้กับทุกชีท ก็ไม่ต้องระบุชื่อชีทนำหน้าตำแหน่งอ้างอิงแต่ต้องทิ้งเครื่องหมาย ! ไว้ด้วยเพื่อหมายถึงทุกชีท เช่น !I5
เนื่องจากตำแหน่งอ้างอิงแบบที่ไม่ได้ใส่ $ แบบ Absolute นี้ จะย้ายตำแหน่งไปตามแนวคู่ขนานกับตำแหน่งเซลล์สูตรที่ใช้ ดังนั้นก่อนที่จะใช้คำสั่ง Formulas > Name Manager เข้าไปกำหนดตำแหน่ง คุณจะต้องเลือกเซลล์ในแนวเดียวกับเซลล์ที่อ้างถึงในช่อง Refers to: ไว้ล่วงหน้าเสมอ ตามรูปตัวอย่างต่อไปนี้
- หากต้องการตั้งชื่อ TopRow และ LeftColumn (หรือชื่อใดก็ได้ตามใจชอบ) ให้มีตำแหน่งอ้างอิงที่หมายถึงทุกเซลล์ใน Row 2 และทุกเซลล์ใน Column B ตามลำดับ
- ให้คลิกเลือกเซลล์ C3 ไว้ก่อนแล้วจึงสั่ง Formulas > Name Manager
- ตั้งชื่อ TopRow ให้มีตำแหน่งอ้างอิง Refers to: =Sheet1!C$2
- ตั้งชื่อ LeftColumn ให้มีตำแหน่งอ้างอิง Refers to: =Sheet1!$B3
- หากต้องการตั้งชื่อ Sum3Above (หรือชื่อใดก็ได้ตามใจชอบ) ให้ทำหน้าที่หายอดรวมของเซลล์ 3 เซลล์ที่อยู่เหนือขึ้นไปจากเซลล์ที่ใช้ชื่อนี้อยู่โดยเว้นเซลล์ที่ติดกับเซลล์สูตร
- ให้คลิกเลือกเซลล์ C13 ไว้ก่อนแล้วจึงสั่ง Formulas > Name Manager
- ตั้งชื่อ Sum3Above ให้มีตำแหน่งอ้างอิง Refers to: =SUM(Sheet1!C9:C11)
- หากต้องการตั้งชื่อ Left2 (หรือชื่อใดก็ได้ตามใจชอบ) ให้ทำหน้าที่หาค่าจากเซลล์ที่อยู่ด้านซ้ายถัดไป 2 เซลล์จากเซลล์ที่ใช้ชื่อนี้อยู่และให้ใช้กับทุกชีทได้ด้วย
- ให้คลิกเลือกเซลล์ G10 ไว้ก่อนแล้วจึงสั่ง Formulas > Name Manager
- ตั้งชื่อ Left2 ให้มีตำแหน่งอ้างอิง Refers to: =!E10